ดวงชาตาเมืองไทยจะปลดล็อกและดีขึ้นเมื่อไหร่
ดวงชาตาเมืองไทยและดาวจรในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 เมื่อดาวมฤตยูและราหูย้ายออกจากดวงเมืองแล้ว |
หน้าแรกโหราศาสตร์ประวัติศาสตร์: HistAstro.blogspot.com
สืบเนื่องจากโพสต์ก่อนๆ ที่ผู้เขียนได้พูดถึงช่วงที่ดวงเมืองเข้าขั้นวิกฤติหนักเพราะโดนดาวร้ายๆ ประกบหลายด้านทั้งหน้าหลังและทับดวงเมือง มาถึงตอนนี้ผู้เขียนจะได้นำเสนอช่วงเวลาคลี่คลายของดวงเมืองให้ท่านทราบ เพื่อการวางแผนอนาคตหรือการลงทุนก็ได้ จะได้รู้ว่าดวงเมืองจะดีขึ้นช่วงไหนและด้วยเหตุผลอะไรตามหลักโหราศาสตร์
ผมได้กล่าวไปในโพสต์ที่ผ่านมาว่าในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 จะมีดาวต่างๆ ได้แก่ ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวศุกร์ ดาวพุธ พระอาทิตย์ พระจันทร์ โคจรมารวมกันอยู่ที่ราศีมังกรและดาวส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะมารวมตัววันเดียวแล้วก็แยกกัน แต่จะกระจุกตัวอยู่ตรงราศีมังกรนานบ้างไม่นานบ้างก็แล้วแต่วิถีการโคจรของดวงดาวแต่ละดวง อย่างเช่น พระจันทร์นั้นก็จะย้ายเข้ามาอยู่ที่ราศีมังกรตั้งแต่คืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 และย้ายออกจากราศีมังกรในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ตามวิถีโคจรของพระจันทร์ที่จะโคจรอยู่ในแต่ละราศีประมาณ 2 วันครึ่ง ส่วนดาวอื่นๆ ก็ยังรวมตัวอยู่ที่ราศีมังกรอีกนานเป็นเดือนหรือหลายเดือน ซึ่งเรื่องนี้จะไม่พูดให้เยิ่นเย้อกว่านี้ในโพสต์นี้
หลังจากวันที่ 29 มีนาคม 2564 ดาวพฤหัสจะย้ายออกจากราศีมังกรเข้าสู่ราศีกุมภ์ของดวงเมือง ดาวพฤหัสจะเป็นอิสระจากพลังงานของดาวเสาร์มากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะถ่ายเทพลังงานแห่งความสุขสมหวังมาสู่โลกมากขึ้น สถานการณ์บนโลกก็จะคลี่คลายลงในช่วงสั้นๆ จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2564
ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 สถานการณ์ต่างๆ อาจจะยังทรงตัวอยู่ แต่ดาวพฤหัสจะเริ่มเข้าสู่สภาวะที่ทางโหราศาสตร์เรียกว่า มณฑ์ คือเริ่มโคจรช้าหรือหยุดนิ่ง ซึ่งในความเป็นจริงบนท้องฟ้าดาวไม่ได้หยุดนิ่งแต่เนื่องจากวิถีโคจรที่เป็นวงรีและการทำมุมกับโลกทำให้โหราจารย์สมัยก่อนมองเห็นว่าดวงดาวไม่เคลื่อนที่ จึงบัญญัติคำว่า มณฑ์ ขึ้นมา ส่วนดาวพุธจะเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า พักร คือเดินถอยหลังไปก่อนหน้านั้นแล้ว และตามความเป็นจริงบนท้องฟ้า ดาวก็ไม่ได้เดินถอยหลัง แต่มุมการโคจรที่ปรากฏบนโลก ทำให้คนบนโลกมองเห็นว่าดาวพุธกำลังเดินถอยหลังไปจากเดิม ดังนั้นการเจรจาสื่อสาร การตกลงทางธุรกิจ การเมือง ช่วงที่ดาวพุธถอยหลังก็จะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ดาวพฤหัสจะเริ่มพักร หรือถอยหลัง เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายต่างๆ ที่จะตามมาหลังจากนั้น ดาวพฤหัสหมายถึงอะไรบ้าง (ตามที่เขียนไว้แล้วในโพสต์ก่อนหน้านี้) สิ่งเหล่านั้นก็จะเริ่มให้ผลด้านลบมากขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 ดาวพฤหัสจะถอยหลังย้ายกลับเข้าสู่ราศีมังกรที่เป็นบ้านของพระเสาร์คู่ศัตรู ราศีซึ่งเป็นสถานที่ๆ ดาวพฤหัสอ่อนกำลังที่สุดที่ตามภาษาโหรเรียกว่า นิจ เรื่องหนักๆ ก็จะกลับมาหาดวงเมืองอีกรอบ และอาจเป็นการระบาดรอบใหม่รอบที่สามของโรคภัยไข้เจ็บที่กำลังเป็นอยู่ก็ได้
ดาวพฤหัสจะย้ายออกจากราศีมังกรและนำความโล่งอกมาสู่คนบนโลกบ้างอีกครั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
วันที่ 30 มีนาคม 2565 พระราหูโคจรเข้าราศีเมษทับดวงเมือง ตั้งแต่เดือนนี้ไปความวุ่นวายไม่น้อยจะเริ่มเกิดขึ้นกับเมืองไทย ที่น่าเป็นห่วงมากคือปี 2565 คาดว่าพายุฤดูร้อนจะรุนแรงไม่น้อยกว่าปี 2564 (ส่วนปี 2564 พายุฤดูร้อนจะแรงกว่าปี 2563 และเริ่มมีผลเมื่อดาวอังคารย้ายไปรวมกับราหูในราศีพฤษภตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564) ปลายปี 64 ความโกลาหลทางธรรมชาติและอุบัติเหตุ ไฟไหม้ พายุลมแรงจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกรอบจนถึงกลางเดือนมกราคมจึงค่อยบรรเทาลง
ความรุนแรงของสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มมากขึ้น และดวงเมืองประเทศไทยจะเข้าสู่ความอึมครึมอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2565 เมื่อดาวพฤหัสแห่งความสุขสมหวังเข้าสู่เรือนวินาศของลัคนาดวงเมือง ประกอบกับที่ดาวราหูจรมาทับดวงเมืองร่วมกับมฤตยูที่บ่อนทำลายดวงเมืองมานานแล้ว ความปั่นป่วนของสถานการณ์ในประเทศทุกด้านจะทวีความรุนแรงมากขึ้น การประชุมของดาวสองดวงนี้จะนำน้ำมหาศาลมาสู่แผ่นดินโลกและไทยเราที่ท่านเองได้เห็นมาแล้วในปี 2564 ในปี 2565 จะเป็นอีกปีที่มวลน้ำมหาศาลจะมาถล่มแผ่นดิน หลังจากที่ดาวพฤหัสเข้าราศีมีน วงการผ้าเหลืองจะมีเรื่องอื้อฉาวสุดๆ ในรอบทศวรรษหรือศตวรรษ ทิดสึกใหม่มากขึ้น พระผู้ใหญ่รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศพากันลาเวทีชีวิตมากอย่างที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน วงการศาลมีเรื่องอื้อฉาว การทุจริตขนาดใหญ่ทุกวงการจะปรากฏ วงการศึกษาครูบาอาจารย์ก็ไม่พ้นข่าวอื้อฉาว ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง สังคมปั่นป่วนสุดๆ ในทศวรรษหรือศตวรรษประวัติศาสตร์ไทย การจะเริ่มกิจการใหญ่โตปี 2565 ต้องคิดไตร่ตรองอย่างหนักหากท่านไม่แข็งพอ
กลางปี 65 ดาวมฤตยูย้ายออกจากดวงเมือง บรรเทาความร้ายแรงลงบ้าง แต่ก็จะย้ายถอยหลังกลับไปรวมกับราหูอีกรอบในต้นเดือนธันวาคม 2565
วันที่ 8 มีนาคม 2566 จากการที่ดาวมฤตยูย้ายออกจากราศีเมษอีกรอบ ทำให้ดวงเมืองไทยโล่งขึ้นอีกระดับ คนราศีเมษก็พลอยโล่งอกมากขึ้นเช่นกัน
ฟังแต่เรื่องร้ายๆ มามากขอกลับมาบอกข่าวดีให้หายกังวลใจว่า ในวันที่ 19 เมษายน 2566 ดาวพฤหัสที่นำความสุขสมหวังมาสู่โลกจะโคจรเข้าทับลัคนาดวงเมือง นำข่าวดีและความสำเร็จในกิจการทั้งหลายมาสู่เมืองไทยและโลกอีกครั้ง ทั้งนี้เพราะดาวโลกนี้ทางโหรว่ากันว่ามีลัคนาอยู่ที่ราศีเมษเช่นเดียวกับเมืองไทย (อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาทางทักษาของดวงเมืองที่ไม่ค่อยดีนักหลังจาก 21 เมษายน 2566 สถานการณ์จะเริ่มอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ อีกครั้งหลังจากที่ข่าวดีมาถึงก่อน) สำหรับสถานการณ์โลก เมื่อดาวแห่งความสุขกลับมาถึงราศีเมษ คนทั้งหลายบนโลกก็จะอยู่เย็นเป็นสุขตามปกติมากขึ้นและคาดว่าถึงตอนนั้นโรคระบาดคงจะคลี่คลายไปแล้ว โดยเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ที่ดาวพฤหัสพ้นจากดาวเสาร์ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 และไม่ถอยกลับไปหาดาวเสาร์อีก คนราศีเมษเองก็จะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งตั้งแต่ 19 เมษายน 2566 (หากพื้นดวงของท่านดีมาก่อนแล้ว)
วันที่ 17 ตุลาคม 2566 พระราหูย้ายออกจากดวงเมือง ทำให้ดวงเมืองไทยโล่งขึ้นอีกระดับ
สถานการณ์ดวงเมืองที่จะปลอดโปร่งมากขึ้นคือหลัง 21 เมษายน 2567 ไปแล้ว แต่ตอนนั้นดวงเมืองจะเข้าสู่ยุคใหม่ที่สิ่งผิดกฎหมายจะกลายเป็นถูกกฎหมาย บางทีกฎหมายคาสิโนและค้าเนื้อหนังที่ผิดกฎหมายมาก่อนอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับกันก็ได้ การติดต่อต่างประเทศและการบินจะเริ่มกลับมาบูมอีกครั้ง
ขอให้ทุกท่านอดทนและรอคอยโอกาสและข่าวดีที่จะมาถึงท่านอีกครั้ง
หน้าแรกโหราศาสตร์ประวัติศาสตร์: HistAstro.blogspot.com
ฤทธิ์พยากรณ์@โหราศาสตร์ประวัติศาสตร์
24 ธันวาคม 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น