คนดี (มาก) แต่ดาวไม่ดี (เลยสักดวง)
 |
| พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร (ผู้ทรงพระปรีชาสามารถมากมายหลายด้าน แต่ดาวในดวงไม่มีดีเลย) |
 |
| ดวงพระชาตาในระบบโหราศาสตร์ไทยมาตรฐาน รัชกาลที่ 4 (โปรดทราบว่าพระองค์ทรงเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาตร์ และนักโหราศาสตร์) ทรงตรัสถึงดวงพระชาตาของพระโอรสพระองค์นี้ว่า "ดวงนี้ไม่มีดาวอะไรได้มาตรฐานดีสักดาว ใครเห็นดวง ไม่มีใครว่าดีเลย ไม่มีใครคิดจะทาย...ให้ท่านทั้งหลายคอยดูผลของดวงนี้ต่อไป..." (ผู้เขียนแก้ไขสำนวนโบราณเพื่อให้ท่านอ่านเข้าใจง่ายขึ้น หากท่านต้องการอ่านฉบับสำนวนเดิม โปรดดูหนังสือ โหราศาสตร์ไทย วิทยาการแห่งความอัปยศ หน้า 28 ถึง 32) |
 |
| ดวงพระชาตาในระบบโหราศาสตร์ไทยสิบลัคนา ปรากฏว่าดวงที่ว่าไม่ดีนั้น เมื่อผูกดวงพระชาตาในระบบโหราศาสตร์ไทยสิบลัคนา (ที่ผู้เขียนใช้ประกอบในการเขียนเกือบทุกโพสต์) พระองค์มีดาวในดวงพระชาตาที่ได้ตำแหน่งมาตรฐานดาวดีอย่างน้อย 5 ดวง และประกอบด้วยดาวที่บ่งบอกถึงความสำเร็จ ยิ่งใหญ่ และต้องปรากฏชื่อจารึกในประวัติศาสตร์แห่งใดแห่งหนึ่งนั่นคือ ดวงพระชาตาได้มาตรฐานจันทร์ ครู สุริยา มีดาวเด่นสัมพันธ์ตามตำราของราศีอัมพุ แต่มีดาวสัมพันธ์กับดาวร้ายอย่างน้อย 3 ดวง จึงทรงมีพระชนมายุเพียง 54 พรรษา |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ประสูติเมื่อวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2398 เวลา 4 ทุ่ม 8 บาท ประมาณ 22.54 น.
ทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย
ทรงเป็นอธิบดีศาลแพ่งกลาง
ทรงเป็นข้าหลวงเมืองเชียงใหม่
ทรงเป็นข้าหลวงใหญ่ เสด็จขึ้นไปว่าราชการอยู่ที่มณฑลลาวกาว จังหวัดอุบลราชธานี
ทรงเป็นผู้พิพากษาฝ่ายไทยร่วมกันพิจารณาคดีความร่วมกับฝรั่งเศส ในกรณีพระยอดเมืองขวาง
ทรงมีความรู้ด้านการแพทย์
ทรงเป็นคนไทยคนแรกที่คิดประดิษฐ์ปรุงยาไทยผสมกับยาต่างประเทศ
ทรงมีพระอัจฉริยภาพในด้านพระนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองมากมายหลายเรื่อง
ทรงศึกษาภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เองจนกระทั่งอ่านสามารถ fiction และ novel ภาษาอังกฤษได้คล่อง
พ.ศ. 2439 ประชวรพระวัณโรคภายใน สิ้นพระชนม์เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2452 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2453) เวลา 04.00 น. เศษ สิริพระชนมายุ 54 พรรษา 4 เดือน 1 วัน
ฤทธิ์พยากรณ์@โหราศาสตร์ประวัติศาสตร์
3 กุมภาพันธ์ 2565: 16.55 น.
แหล่งที่มาข้อมูล: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น