ดวงพระบรมราชชาตารัชกาลที่ 3 (ดวงเจ้าสัวใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
King Rama III (King Nangklao) of Siam (Thailand) |
วันจันทร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม เวลา 10 ทุ่ม (4 นาฬิกา หรือตี 4) ตรงกับวันที่ 1 เมษายน 2331 ตามเวลาสากล (คืนวันที่ 31 มีนาคม 2331) |
ผู้เขียนตั้งใจจะเขียนดวงพระบรมราชชาตาของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากมีประเด็นเชื่อมโยงที่น่าสนใจหลายประเด็น แต่เนื่องจากมีเรื่องค่อนข้างยาว จึงยังไม่มีจังหวะเวลาดีๆ ที่จะเขียนได้เต็มที่ วันนี้ว่างจากงานประจำจึงจัดเวลาที่จะทำตามความตั้งใจอีกครั้ง เหตุที่ผู้เขียนอยากจะเขียนวิเคราะห์ดวงพระบรมราชชาตาของพระองค์ท่าน ประการหนึ่งเพราะเมื่อผูกดวงพระบรมราชชาตาในระบบสิบลัคนาแล้ว มีดาวศุกร์ (6) ในราศีมีนในพระบรมราชชาตาที่ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ในเรือนการเงิน เขียนเพียงเท่านี้ผู้เรียนโหราศาสตร์มาก็ต้องโอ้โหกันบ้างละครับ ถ้าผูกดวงระบบสิบลัคนาแล้วดาวเป็นอย่างนี้ ถ้ามีฐานะธรรมดาอยู่บ้านเช่าก็ต้องบอกว่า เจ้าของดวงบอกเวลาเกิดผิดอย่างแน่นอน ในระบบสิบลัคนาสักร้อยคนจะมีดาวเช่นนี้สักคนก็ยากแล้วครับ จะต่างจากระบบลัคนาเดียวที่คนจนก็มีดาว 6 มหาอุจจ์ได้ โดยมากคนที่มีดาวเช่นนี้ต้องมีบ้านช่องใหญ่โต ถึงจะผ่อนธนาคารก็ตาม เท่าที่เห็นมาสองท่าน ท่านนึงบ้านเป็นตึกสามสี่ชั้น อีกท่านนึงก็มีบ้านทาวน์เฮาส์ขนาดใหญ่สองหลัง เป็นเจ้าของกิจการทั้งสองท่าน สองตัวอย่างนี้เป็นเพียงคนรู้จักกัน แม้จะไม่รวยระดับเศรษฐี แต่บ้านช่องก็ไม่ได้เช่าเขาอยู่
กลับมาที่เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 3 ดีกว่าครับ เวลาพระราชสมภพที่ผู้เขียนค้นคว้ามานี้เช็คจากสามแหล่งที่เป็นตำราโบราณ 2 แห่ง อีกแห่งเป็นวิกิพีเดีย (Wikipedia) ซึ่งใน Wiki บอกเวลาพระราชสมภพเป็นสี่ทุ่มครึ่งนั้นผิดนะครับ ที่จริงคือ สิบทุ่ม ซึ่งหมายถึง ตีสี่ เหตุผลก็คือเวลาเราจะเรียกสองยามหรือเที่ยงคืนเราเรียกว่า หกทุ่ม ใช่ไหมครับ ดังนั้นเจ็ดทุ่มสมัยโบราณก็คือตีหนึ่งและสิบทุ่มก็คือตีสี่ เอกสารโบราณวางลัคนาชัดเจนที่ราศีกุมภ์ซึ่งเป็นเวลาตีสี่เท่านั้น ผู้เขียนเองก็งงพักนึงที่ตำราเก่าเขียนว่าสิบทุ่ม เพราะสมัยนี้ไม่เรียกอย่างนั้นแล้ว
เนื่องจากระบบสิบลัคนาจำเป็นต้องเห็นใบหน้าของเจ้าของดวงชาตาจึงจะสามารถวางลัคนาได้แม่นยำมากที่สุด แต่รัชกาลที่ 3 สวรรคตไปนาน ไม่มีภาพถ่าย สังเกตว่าภาพถ่ายจะเริ่มมีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ดังนั้นเราจะทราบได้อย่างไรว่า รัชกาลที่ 3 ท่านมีพระพักตร์หน้าตาอย่างไร ในภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 3 นี้เป็นภาพวาดเหมือนจริงที่อยู่ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แต่ท่านอาจจะสงสัยอีกว่าแน่ใจเหรอว่าช่างวาดได้เหมือน
ผู้เขียนมีหลักฐานโบราณที่ยืนยันว่าภาพนี้เหมือนจริงที่สุดมาอ้างอิงครับ เขียนไปก็ขนลุกไป ทำไมเหรอครับ มาฟังเรื่องเล่าเก่าก่อนกันดีกว่า เรื่องนี้มีชื่อว่า พระวิญญาณ ร.3 ให้ท่านผู้อ่านคลิกลิงค์ที่ผู้เขียนทำไว้ให้นี้แล้วอ่านเรื่องเต็มได้ครับ ส่วนผู้เขียนจะเล่าเพียงย่อๆ ว่า สมัยนั้นพี่เลี้ยงได้พาเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ หรือ “ทูลกระหม่อมเล็ก” ไปวิ่งเล่นตามประสาเด็ก ที่ชั้นล่างของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้ววิญญาณของรัชกาลที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินผ่านให้เจ้าชายน้อยทรงเห็น สมัยนั้นทูลกระหม่อมเล็กยังเป็นเด็กอยู่ได้ตะโกนว่า... (จากนี้ไปขออนุญาตนำข้อความต้นฉบับจากเว็บไซต์ผู้จัดการมาเขียนไว้ที่นี้)
“ใครนี่...ใครที่อยู่ข้างนอกเข้ามานี่หน่อยซิ”
พวกมหาดเล็กก็วิ่งกันเข้าไป....
“พิลึกแท้ๆ ซุ่มซ่ามเข้ามาได้ยังไง...เร็วไปจับตัวมาให้ฉัน”
ทรงชี้พระหัตถ์ไปทาง....
“ใคร รูปร่างเป็นยังไงพระเจ้าข้า” มหาดเล็กคนหนึ่งทูลถาม
“อ้วนๆ ตัวใหญ่” ทรงยกพระหัตถ์ทำกิริยาประกอบ “แก่แล้ว นุ่งผ้าแดงแปร๊ดเลย เดินหายเข้าไปทางนี้แหละ”
...เมื่อทูลกระหม่อมเล็กทรงพระดำเนินไปถึงพระบรมรูปรัชกาลต่างๆ ทรงหยุดเพ่งพินิจพระบรมรูปรัชกาลที่ ๓ อยู่ชั่วครู่ ก็ทรงชี้พระหัตถ์ไปที่พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รับสั่งอย่างเด็กๆ ที่ยังไร้เดียงสาว่า
“นี่แหละ...นี่แหละ...อีตาคนนี้นี่แหละ”
เท่านั้นเอง เหล่ามหาดเล็กก็ขนลุกซู่ รีบอุ้มทูลกระหม่อมเล็กกลับไปส่งให้ฝ่ายในทันที...
เท่าที่ผู้เขียนทราบมาคนสมัยนั้นมักจะเห็นพระวิญญาณของพระองค์ท่านกันเป็นประจำ และนี่น่าจะพอเป็นหลักฐานยืนยันอย่างหนึ่งว่า พระบรมฉายาลักษณ์ที่ช่างสมัยนั้นได้วาดไว้นั้นเหมือนจริงมากที่สุด ผู้เขียนจึงสามารถวิเคราะห์พระบรมราชลัคนาได้ตามข้อมูลนี้ ด้านล่างนี้คือพระราชประวัติโดยย่อจาก Wikipedia ท่านสามารถคลิกลิงค์ที่พระนามเพื่ออ่านเพิ่มเติมได้:
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สยามประเทศ
พระราชสมภพ 31 มีนาคม พ.ศ. 2331 กลางคืน เวลาตี 4 (สิบทุ่มสมัยก่อน)
ครองราชย์ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 - 2 เมษายน พ.ศ. 2394 (26 ปี 255 วัน)
ราชาภิเษก 1 สิงหาคม พ.ศ. 2367
รัชกาลก่อนหน้า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลถัดไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชทายาท สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ
พระชายา 56 ท่าน
พระราชบุตร 51 พระองค์
พระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระราชมารดา สมเด็จพระศรีสุลาลัย (เจ้าจอมมารดาเรียม)
สวรรคต 2 เมษายน พ.ศ. 2394 (63 พรรษา)
ในสมัยรัชกาลที่ 2 พระองค์มีพระนามว่า พระองค์เจ้าชายทับ กำกับราชการกรมท่า พระองค์ถนัดการแต่งสำเภาไปค้าขายกับต่างประเทศ จึงทรงนำพระราชทรัพย์กำไรเข้าพระคลังหลวงมากมาย รัชกาลที่ 2 ถึงกับทรงเรียกท่านว่า "เจ้าสัว"
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 สยามมีเรื่องพิพาทกับฝรั่งเศสที่ปากน้ำสมุทรปราการ ฝ่ายสยามเปิดฉากยิงเรือรบฝรั่งเศสได้รับความเสียหายก่อน ฝรั่งเศสเรียกร้องค่าเสียหายรวม 5 ล้านฟรังก์ ถ้าไม่จ่ายจะยกทัพเรือเข้ามายิงพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ 5 จำพระทัยต้องนำเงินในพระคลังข้างที่ออกมาจ่ายฝรั่งเศสเป็นค่าเสียหาย เงินนั้นเรียกว่าเงินถุงแดงที่รัชกาลที่ 3 ทรงสะสมไว้ (เงินถุงแดงนั้นเป็นเหรียญทองของเม็กซิกันที่ ร.3 เก็บสะสมไว้โดยมีพระราชประสงค์ว่า "เงินถุงแดง" สำหรับไว้ใช้ในยามที่บ้านเมืองเกิดยุคเข็ญ...) ท่านสามารถคลิกลิงก์คำว่า เงินถุงแดง เพื่ออ่านประวัติเรื่องราวและดูรูปเงินเหรียญนกอินทรีย์สีทองที่ ร.3 ทรงสะสมไว้ ที่ในภายหลัง ร.5 ทรงนำมาจ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศสได้จากเว็บไซต์นิตยสารศิลปวัฒนธรรม
จึงกล่าวไม่ผิดว่า สยามประเทศที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส เพราะได้เงินถุงแดงกู้ประเทศไว้ในสมัยนั้น มิฉะนั้นฝรั่งเศสซึ่งหาเรื่องหาช่องทางจะยึดสยามเป็นเมืองขึ้นอยู่แล้ว ก็จะได้ช่อง และสยามฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะตกเป็นของฝรั่งเศส ส่วนฝั่งขวาก็จะตกเป็นของอังกฤษซึ่งก็สงวนทีท่าไว้ แต่รอคว้าโอกาสทองอยู่เช่นกัน...
ฤทธิ์พยากรณ์@โหราศาสตร์ประวัติศาสตร์
27 พฤศจิกายน 2564: 18.35 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น